ได้เวลาเปลี่ยนงาน เวย์น รูนีย์ ผู้จัดการทีม ดาร์บี้ เคาน์ตี้ มีชื่ออยู่ในลิสต์ลำดับที่หนึ่งที่ เบิร์นลีย์ ปรารถนาคว้าตัวมาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลคนใหม่ในฤดูกาลหน้า

ได้เวลาเปลี่ยนงาน เดอะ ซัน รายงานเมื่อ 28 เม.ย.ว่า เดอะ คลาเร็ตส์ แสดงความสนใจในตัวนายใหญ่กลุ่ม แกะเขาเหล็ก โดยเล็งทาบเขามาคุมกลุ่มแทน ไมเคิ่ล แจ็คสัน กุนซือขัดตาทัพที่ถูกดึงตัวขึ้นมากลุ่มชุดยู 23 ของสมาพันธ์

ให้แบกรับภาระแทน ฌอน ไดช์ ที่โดน อลัน เพซ ประธานสมาคมปลดหากแม้อดีตกาลแนวรุกกลุ่มชาติอังกฤษ และก็ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่บางทีอาจช่วยทำให้ ดาร์บี้ รอดพ้นจากการตกลงสู่ ลีกวัน ในฤดูกาลหน้าก็ตามข้างหลังสมาคมถูกหัก 21 แต้มจากการทำในสิ่งที่ผิดกฏเรื่องการเงิน

เว้นแต่ รูนีย์ แล้ว เบิร์นลีย์ ยังเล็งไปที่ผู้จัดการทีมอีกหลายรายอีกทั้ง คริส ไวลเดอร์ ของกลุ่ม มิดเดิ้ลสโบรช์ , อเล็กซ์ นีล ของกลุ่ม ซันเดอร์แลนด์ แล้วก็ แซม อัลลาร์ไดซ์ ที่ยังไม่มีงานทำ

แต่ว่า เอแอลเค แคปปิตอล ผู้ครอบครองกลุ่ม เดอะ คลาเร็ตส์ ชาวอเมริกันที่จ่ายเงินเข้ามาเทคโอเวอร์ชมรมเมื่อเดือนธันวาคมด้วยจำนวนเงิน 170 ล้านปอนด์ (ราว 7,401 ล้านบาท) อยากได้ได้ รูนีย์ มานั่งเก้าอี้นายใหญ่คนใหม่เยอะที่สุด บ้านผลบอล

ได้เวลาเปลี่ยนงาน

ที่ผ่านมา อดีตกาลศูนย์หน้าในวัย 36 ปีเคยถูกโยงกับ เอฟเวอร์ตัน สมัยก่อนชมรมเช่นเดียวกันก่อนที่จะเป็น แฟร้งค์ แลมพาร์ด ซึ่งเคยจับบังเหียน แกะเขาเหล็ก มาก่อนได้รับการแต่งให้คุมกลุ่มแทน ราฟาเอล เบนิเตซ

ดังนี้ รูนีย์ ได้รับตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ถิ่น ไพรด์ พาร์ค เมื่อเดือนเดือนมกราคมตอนที่ ดาร์บี้ รั้งตำแหน่งบ๊วยของตาราง แชมเปี้ยนชิพ แล้วก็หากแม้เขาจะคุมกลุ่มส่งผลงานที่ดี แต่ว่าการเช็ดกหักแต้มอย่างมากมายทำให้สมาคมหนีไม่พ้นจำต้องตกลงสู่ ลีกวัน ในฤดูกาลหน้า

อย่างไรก็แล้วแต่ ในมุมมองของ เบตแฟร์ ร้านค้ารับพนันยกให้ ไวลเดอร์ เป็นเต็งหนึ่งผู้จัดการทีมคนใหม่ของ เบิร์นลีย์ ในอัตรา 6-4 และก็ตามด้วย รูนีย์ 3-1 ,ราฟาเอล เบนิเตซ 13-2 รวมทั้ง เคติล นัตเซนชีฟ ผู้จัดการทีมฟุตบอลกลุ่ม โบโด กลิมท์ 9-1

เล่นชุดใหญ่ให้กับ เอฟเวอร์ตัน ตอนอายุ 16 ปี ทำประตูสุดงามรวมทั้งถูกคิดว่าเป็นดาวรุ่งที่ยอดเยี่ยมในรอบ 20 ปี เอาเมื่ออายุ 17 ปี ก่อนย้ายกลุ่มด้วยค่าจ้างดาวรุ่งสถิติโลกตอนอายุ 18 ปี แล้วก็เป็นนักฟุตบอลกำลังหลักของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทั้ง กลุ่มชาติอังกฤษตั้งแต่ในเวลานั้น

นี่เป็นแผนภูมิความอัศจรรย์ของ เวย์น รูนี่ย์ เมื่อครั้งอายุยังไม่พ้นวัยทีน … ชายหนุ่มชาวเอฟเวอร์โตเนี่ยน โตมาพร้อมกับการเช็ดกสื่อจับตาทุกฝีก้าว แล้วเขาก็ดันมีเรื่องมีราวคาวๆเรื่องฉาวๆให้สื่อได้เล่นข่าวสารบ่อยๆ แม้กระนั้นที่สุดแล้ว เขาเป็นนักฟุตบอลอังกฤษที่บรรลุความสำเร็จเยอะที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์

มากกว่าฝีเท้า เป็นการต่อกรกับชื่อเสียง รวมทั้งการเล่นกับสื่ออังกฤษที่ขึ้นชื่อว่า “เอาให้ตาย” … ก่อนที่จะแปลงเป็นยอดเยี่ยมลำแข้ง รูนี่ย์ จัดแจงกับข้อคิดเห็นรวมทั้งพลังของสื่อสายดำยังไง ?

ในบรรดาแวดวงสื่อบอลของประเทศต่างๆบนโลกใบนี้ สื่ออังกฤษ นับได้ว่าเป็นสื่อที่ถูกใจเขียนข่าวสารให้ทำให้เกิดผลเสียกับนักฟุตบอลในประเทศของพวกเขาเยอะที่สุด กำลังออกจากกลุ่ม

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักฟุตบอลอังกฤษ หรือนักฟุตบอลต่างประเทศที่เล่นในพรีเมียร์ลีก ถ้าว่าคุณกำลังผลงานดีติดลมบน ใครๆก็เอ๋ยถึงคุณในฐานะยอดนักฟุตบอล เมื่อนั้นพวกสื่อจะเริ่มรุมทึ้งและก็ขุดทุกแง่ทุกมุมของคุณออกมาจนกระทั่งหมด

หากคุณโชคร้าย เคยทำอะไรไม่ดีรวมทั้งมีหลักฐานทิ้งเอาไว้จนกระทั่งพวกเขาหาพบ สิ่งนั้นจะถูกเสนอผ่านข่าวพาดหัวหน้า 1 โดยทันที หากแม้เรื่องจะผ่านมานานนมเป็น 10 ปี ก็ตาม

สื่ออังกฤษ เป็นเจ้าตำรับการขายข่าวคาว วิธีการทำข่าวสารเจาะไปยังชีวิตนักฟุตบอลดังๆหรือนักฟุตบอลที่กำลังจะดัง พวกเขาทราบว่าสิ่งที่ได้กลับมา ภายใต้การผลิตแรงกดดันแล้วก็แง่ลบในภาวะจิตใจของนักฟุตบอล เป็นยอดจำหน่ายรวมทั้งเรตติ้ง ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องแข่งขันกันกับสื่ออีกหลายๆฉบับที่มีเป้าหมายแบบเดียวกัน

สำหรับนักฟุตบอลดาวรุ่งเองก็หนีไม่พ้น ยิ่งดาวรุ่งคนประเทศอังกฤษที่เก่งขึ้นมาในระยะสั้นๆถือได้ว่าอีก 1 รายการอาหารจานโปรดของเหล่าสื่ออังกฤษ พวกเขาชอบชื่นชมนักฟุตบอลคนนั้นเกินเรื่องจริง

ได้เวลาเปลี่ยนงาน

เพราะเหตุว่ารู้ว่าผู้อ่านถูกใจเสพข่าวสารอย่างงี้ … ครั้งคราวดาวรุ่งคนนั้นๆก็เก่งจริง บางครั้งสื่อก็เขียนข่าวสารไปก่อนแล้ว แม้ว่าเด็กคนนั้นเพิ่งจะลงสู่สนามได้เพียงแค่ไม่กี่เกม

ปัจจุบันไม่นานมานี้ เมาริสิโอ ซาร์รี่ ในยุคที่คุมกลุ่ม เชลซี โดนสื่อวิภาควิจารณ์แต่ละวันเกี่ยวกับการไม่ยินยอมให้ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย นักฟุตบอลวัย 18 ปี (ในเวลานั้น) ของกลุ่มลงในสนามเป็น 11 ตัวจริง ซึ่งท้ายที่สุด ซาร์ปรี่ ก็เห็นด้วยว่า สื่ออังกฤษกับการเล่นข่าวสารที่ไม่สนใจอนาคตเด็ก เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้นักฟุตบอลผู้คนจำนวนมากหลุดเส้นทางโคจรกลางทาง https://crescentpointegolf.com

“คัลลัม อยู่ในสายตาผมเสมอ ผมดูเขาอยู่เสมอนั่นแหละ แต่ว่าที่สำคัญที่สุดเป็นพวกท่าน (ผู้รายงานข่าว) จำต้องเพลาๆประเด็นการบีบคั้นนักฟุตบอลชายหนุ่มคนอังกฤษให้น้อยๆลงบ้าง”

“เอาจริงเอาจังๆนะ ผมเกือบจะไม่เคยมองเห็นนักฟุตบอลวัย 18 ปี คนใดกันแน่เป็นนักฟุตบอลตัวหลักของกลุ่มระดับท็อปเลย นักฟุตบอลอย่าง คัลลัม หรือนักฟุตบอลอังกฤษในวัยเดียวกับเขาหลายท่าน

ควรจะถึงเวลาสำหรับเพื่อการปรับแก้แล้วก็ปรับปรุงตนเอง ในขั้นตอนนี้มันสำคัญนะ (การผิดสื่อบีบคั้น) หากเขาไปถูกทาง พวกเราจะได้มองเห็นพวกเขาเป็นนักฟุตบอลระดับท็อปตอนอายุ 22-23 ปี”

สื่ออังกฤษเขียนข่าวสารเชิงเชิดชูแต่ว่าไม่ถูกเวลาไปมากมาย เพราะว่าพวกเขาเขียนตั้งแต่นักฟุตบอลลงเล่นเพียงแค่ไม่กี่เกมเพียงแค่นั้น แล้วก็ครั้งใดก็ตามมีข่าวสารอย่างงี้ออกมา มันนำมาซึ่งแรงกดดัน แล้วก็ปัญหาก็มีผลกับผู้เล่นเอง

แบบอย่างของนักฟุตบอลที่ได้รับการสรรเสริญว่าจะไประดับนานาชาติตั้งแต่ยังเด็กในพรีเมียร์ลีก แม้กระนั้นในที่สุดไปไม่ถึงฝันแล้วก็ไปได้ไม่ไกลกว่าที่อวยมีล้นหลาม แม้นับเฉพาะสมัยไม่ลเลนเนียมเป็นต้นมา สามารถยกตัวอย่างได้มากมาย …

ลุค ชอว์ ลงเล่นให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ไปไม่ถึง 30 เกม พวกเขากล่าวว่าเป็นแบ็คซ้ายระดับนานาชาติที่จะยืนตัวจริงให้กลุ่มชาติอังกฤษไปอีก 10 ปี, แจ็ค วิลเชียร์ เด่นตั้งแต่อายุ 18 ปี

เล่นเจริญสุดกับการเล่นให้ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ข้างหลังผ่านการช่วยกลุ่มหนีตกชั้น และก็สื่อพูดว่าเขาจะเป็น “นิว ชาบี” นี่ยังไม่ร่วมพวกที่ถูกกล่าวว่าเก่งตั้งแต่อายุ 15-16 ปี ได้รับคำยกย่องชมเชยคำเชิดชูตั้งแต่ยังมิได้เล่นให้กลุ่มชุดใหญ่อย่าง ธีโอ วัลค็อตต์ และก็ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ซึ่งที่สุดและจากนั้นก็ไม่มีผู้ใดไปได้ถึงระดับที่สื่อกำหนดจุดมุ่งหมายไว้สักคน

อย่างไรก็แล้วแต่ ในกระแสของสื่ออันแรงกราด ย่อมมีผู้ว่ายทวนกระแสรวมทั้งเอาชนะสิ่งพวกนี้ได้ … เวย์น รูนี่ย์ เป็นเดียวที่ไปได้จนถึงสุดทาง ปัดกวาดการบรรลุผลมาก เขาโดนสื่อคาดหมายแบบหมายหัวไว้ตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่ว่า รูนี่ย์ สามารถจัดการกับสิ่งกลุ่มนี้ได้

จนถึงก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลระดับไอคอนในแบบที่นักฟุตบอลอังกฤษคนอื่นทำไม่ได้ ปริศนาเป็น อะไรที่ทำให้เขาผิดแผกแตกต่าง และก็เอาชนะสื่ออังกฤษจอมรุมทึ้งได้กันแน่ ?